อร่อยรับลมหนาว “ห้องอาหารเชาว์ เทอราซซ่า”

ลมหนาวมาอากาศเป็นใจขนาดนี้ ก็ได้เวลากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเพื่อคลายคิดถึง โดยงานนี้ “เชฟดาริโอ บุส เนลลี่” หัวหน้าเชฟประจำ “ห้องอาหารเชาว์ เทอราซซ่า” โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

ตั้งใจเปิดห้องอาหารอิตาเลียนบรรยากาศริมแม่น้ำให้นักชิมได้ลิ้มลองความอร่อยสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่สอดแทรกความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคการปรุงอาหารขั้นเทพไว้ทุกอณู

ด้วยความที่ “เชฟดาริโอ” โตมากับคุณป้าที่เป็นเชฟ ทำให้ซึมซับเมนูอาหารตำรับคลาสสิกตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อบวกกับประสบการณ์และทักษะการทำอาหารที่สั่งสมมาจากการทำงานหลายประเทศ ทำให้อาหารทุกจานของเชฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเป็นส่วนผสมลงตัวระหว่างความคลาสสิกแบบรสมือแม่กับความร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยรายละเอียดสุดสร้างสรรค์

เปิดฤดูกาลใหม่ด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยเลื่องชื่อ “พาร์มาแฮมกับแป้งทอดกรอบ กญ็อคโค ฟริตโต” แป้งทอดสูตรทาง เหนือของอิตาลี (คล้ายปาท่องโก๋) เชฟ เลือกใช้เนื้อส่วนก้นของพาร์มาแฮม ซึ่งมีราคาสูงมาก เพื่อให้ได้รสสัมผัสดีที่สุด

ใครชื่นชอบพาสตาสดใหม่จะต้องหลงรัก “พาสตาคาวาเทลลีผัดซอสข้นล็อบสเตอร์ เสิร์ฟคู่กับกุ้งแดงจากเมดิเตอร์เรเนียน, ปลาหมึกจิ๋ว และหอย” เส้นพาสตาทำจากแป้งเซโมลิน่า จะไม่มีส่วนผสมของไข่ เมื่อ นวดแป้งได้ที่แล้ว เชฟจะใช้มือม้วนแป้งกับแม่พิมพ์ไม้ เพื่อให้เกิดลวดลายสวยงามบนตัวพาสตา เป็นสไตล์เฉพาะตัวของภาคใต้อิตาลี อีกเมนูเด่นยกให้ “ลาซานญ่า เนื้อวากิว” เชฟประยุกต์หน้าตาให้ทันสมัยขึ้น โดยอบกับซอสเนื้อวากิวส่วนที่ติดกับซี่โครง

เมนูจานหลักในฤดูกาลนี้ เชฟนำเสนอ “เนื้อวากิวส่วนที่ติดกับซี่โครง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเป็นหัวผักกาดราดซอสเนย และโพเลนต้าราดซอสทรัฟเฟิล” ใช้วิธีซูวีดที่อุณหภูมิ 74 องศา เป็นเวลาหนึ่งคืน เพื่อให้ละลายในปาก และได้รสชาติความหวานของเนื้อวากิว แม้จะผ่านการปรุงสุกมากว่า 10 ชั่วโมง ลักษณะเด่นของเนื้อส่วนที่ติดกับซี่โครง คือจะมีชั้นไขมันแทรกอยู่มาก เมื่อปรุงสุกด้วยความร้อนที่อุณหภูมิต่ำ ยิ่งทำให้เนื้อมีความฉ่ำทวีคูณ

ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานท้าพิสูจน์ฝีมือ “ทิรามิสุสูตรลับ” ตกทอดจาก “เชฟนอร์เบิร์ต คอสเนอร์” อดีตหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ในตำนานของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เสริมทัพด้วยเมนูใหม่ประจำฤดูกาลคือ “ช็อกโกแลตเหลวและพิสตาชิโอคัสตาร์ด” เสิร์ฟอุ่นๆ ทานกับแป้งกรอบ